ครั้งแรกกับประเพณียี่เป็งที่เชียงใหม่

ตามปกติแล้ว เราจะอยู่แต่กรุงเทพ พวกหน้าเทศกาลต่างๆจะไม่ค่อยได้ไปไหนสักเท่าไหร่ แต่จะมีอยู่เทศกาลนึง

ที่เคยฝันไว้นานแล้วตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาลัย(ซึ่งนานมากกกก)ว่า สักวันนึงอยากจะไปเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ จนในที่สุดก็ได้จังหวะดีๆ จัดทริปเล็กๆขึ้นมา แพคกระเป๋าแล้วมุ่งหน้า สู่นครเชียงใหม่ไปดูโคมไฟยี่เป็งกันเจ้า! 

วันเดินทาง

เราเดินทางด้วยเครื่องบินค่ะ แต่บินรอบไฟลท์ดึกเลย ถึงที่เชียงใหม่ วันที่ 14 พย. โดยก่อนเดินทางเราได้เลือกที่พักมาแล้ว จาก agoda ตัวเลือกที่จะพักคือจะต้องไปไหนสะดวกค่ะ เพราะไม่ได้มีขับรถไปกันเองเนอะ ตัวเลือกที่โอเคที่สุดก็คือ ถนนนิมมาน ที่เลือกก็เพราะมีรถแดงผ่านตลอดทั้งคืน ของกินหาง่าย ไม่ลำบาก สุดท้ายก็มีโรงแรมที่เข้าตาก็คือ Room no.7 ค่ะ อยู่ นิมมานซ.7

ด้วยความที่บินไฟลท์ดึก เราเลยเข้ามาเชคอินช้ากว่าปกติค่ะ เลยได้โทรเข้ามาสอบถามกับทางโรงแรมก่อน และก็ได้คำตอบว่า ที่นี่เปิดให้เชคอินได้ 24 ชม.เลยจ้าา แข่งกับเซเว่นกันไปเลย เฮ้! (แอบชอบภาพในหลวงกับพระราชินีของโรงแรมมากเลยค่ะ เลยขอถ่ายเก็บไว้นิดนึง)

เอาละมาดูบรรยากาศรอบๆกัน โรงแรมนี้แอบเท่นะ เจ้าของน่าจะเป็นคนชอบขี่มอเตอร์ไซต์แน่ๆ เพราะดูแล้ว ทุกอย่างจะตกแต่งเป็น แนวๆไบค์เกอร์ ดิบๆ

มีมอเตอร์ไซต์โชว์ไว้ ตรงล็อบบี้ น่ารักมากกก คันเล็กจิ๋วๆ แต่ราคาจิ๋วมั้ยนี่ไม่รู้เลยค่า...

อันนี้มีหมี kiss ตัวใหญ่มากกกกก คอยเฝ้าประตูด้วย 

ขึ้นมาที่ห้องพักบ้างค่ะ วันที่เราไปได้พักที่ชั้น 2 ก็เดินขึ้นบันไดเอา ตอนขึ้นบันไดก็แอบเหลือบไปเห็น กรอบรูปอยู่อันนึง คุณคะ!! มันคือลายเซ็นต์พี่เวียร์ค่าาา >< ดีต่อใจมากกกกก 555 ดีต่อใจจนคนข้างๆนี่กระแอมเสียงเข้ม

กว่าจะหลุดจากกรอบรูปพี่เวียร์มาได้ เล่นเอาคนข้างๆเหนื่อย 55 มาๆเข้าไปดูห้องกันเลยดีกว่า

ชั้นที่เราพัก เขาก็ตกแต่งเป็นโทนไบค์เกอร์ เหมือนเดิม ประตูห้องสีไม้เข้มเหมือนกันหมด

และอันนี้คือห้องที่เราพักค่ะ ห้อง 727 ป้ายห้องเก๋มากอ่ะเป็นเหมือนป้ายรถของญี่ปุ่น

ภายในห้องพัก โรงแรมตกแต่งทุกอย่างเป็นไบค์เกอร์จริงๆค่ะ คุณผู้ชายน่าจะชอบมากเป็นพิเศษขนาดโต๊ะหัวเตียงยังเป็นลายเวสป้าเลย

 

ผนังข้างๆมี ที่แขวนเท่ๆ อีก แฟนบอกว่า น่าจะให้แขวนหมวกกันน็อคอะไรแบบนี้ (รึเปล่านะ)

บรรยากาศห้องรวมๆนะคะ ที่นี้เขาไม่มีตู้เสื้อผ้าแบบ บานปิดให้นะ เป็นโครงเท่ๆแบบนี้เลย 

มาดูห้องน้ำกัน แอบเขินนิดนึง ประตูห้องน้ำที่นี่เป็นแบบบานเลื่อนค่ะ แล้วก็ไม่มีกลอน อีโรติกสุดๆอ่ะ

อันนี้เรากรี๊ดมาก นี่แหละตอบโจทย์ผู้หญิงอย่างแท้จริง! ในห้องน้ำต้องมีไฟหน้ากระจกอย่างเง้สิคะ! แต่งหน้าได้แบบสบายใจ หลายครั้งมากๆ ไปพักโรงแรมแล้วเจอแสงไฟไม่พอ แต่งหน้าลำบากมากค่า อันนี้ให้ 4 ดาวเลย ติดไว้อีกดาวตรงที่กระจก บานเล็กไปนิดนึง

มาที่นี่ ไม่ต้องพกไดร์เป่าผมค่ะ เขามีให้ในห้องน้ำเลย ใส่ถุงผ้าเรียบร้อย

วันเที่ยว

วันนี้เรามีเพลนกันไว้คร่าวๆค่ะ จากที่หาข้อมูลมาจาก อากู๋ แล้วก็ได้สอบถามน้องพนักงานที่ล็อบบี้โรงแรม เราก็ตัดสินใจว่า จะไปเช่ามอเตอร์ไซต์กัน แล้วก็ขี่ไปดูงานยี่เป็ง ในคืนนี้ เพราะเป็นคืนสุดท้าย ที่จะมีการเดินขบวนพาเหรด แล้วก็ปล่อยโคมกัน

มาเติมพลังกันก่อนตอนเช้ากับโจ๊กที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ จริงๆมีอาหารอย่างอื่น แต่เช้าๆแบบนี้ ต้องโจ๊กสิคะ เป็นโจ๊กต้นพยอมเจ้าดังของที่นี่ อร่อยดีค่ะ เนื้อโจ๊กข้นมาก 

 

หลังจากนั้น เราก็ไปเดินเล่นในนิมมานบ้าง จน 5 โมง ค่ะ ก็ออกขับมอไซต์กัน คิดถูกมากๆที่รีบออกมาตั้งแต่ตอนนั้น เพราะรถเยอะมากเลยนะ ตอนแรกคิดว่าปีนี้จะเงียบ เนื่องจากเหตุการณ์ที่แสนเศร้าสลดจากการสูญเสียพึ่งผ่านมาในเดือนตุลาคม แต่ในมุมมองของนักท่องเที่ยวอย่างเรา มองว่า คนยังเยอะอยู่นะคะ แต่ค่อนข้างเป็นไปในแบบสงบ ทุกคนพร้อมใจกันออกมาลอยกระทง และถวายความอาลัยกันอย่างสงบจริงๆ

โดยที่ๆเราไปกันจะเป็นกาดหลวงที่แรกค่ะ

ตรงนั้นจะเป็นจุดที่ขบวนพาเหรดจะเดินผ่าน ซึ่งปีนี้เป็นธีม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงของเรา

ตรงเส้นนี้ ถนนจะถูกปิดไม่ให้รถผ่าน ข้างถนนจะประดับไปด้วย โคมไฟแบบล้านนาเต็มไปหมดเลย สวยมากกกก

พอใกล้จะถึงเวลา ก็จะมีการเคลียผู้คนให้ไปยืนรออยู่ริมฟุตบาททั้งสองฝั่งค่ะ

และแล้ว ป้ายนำขบวนก็เดินทางมาถึง ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบและเรียบร้อยมาก

มีป้ายของหลายภาษา แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของประเพณียี่เป็งนี้ ในวันนั้น ต่างชาติเยอะค่ะ

มาดูสาวงามเมืองเหนือกันบ้าง แต่งตัวได้เรียบร้อยงดงามมากจริงๆ

ขบวนแรกมาแล้วค่ะ

ในแต่ละขบวน จะมีการเปิดเพลงพระราชนิพนธ์ประกอบไปด้วย 

ทุกขบวน จะตกแต่งเป็นสีขาวทั้งหมด เพื่อแสดงความไว้อาลับ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดไม่ได้

ความงดงาม ของแต่ละ ขบวนจะแตกต่างกันไป บางขบวนเหมือนยกนางฟ้านางสวรรค์มา

บางขบวนมีภาพพระราชกรณียกิจ หมุนส่องสว่างให้เราได้ดู

ชายหญิงที่เดินในขบวน แต่งกายได้เรียบร้อยมากค่ะ มีความเป็นไทย ล้านนา เจ้านางก็มี

หลังจากที่ยืนชมขบวนสักพักนึง เราก็พากันเดินมาตรงสะพานนวรัฐ ซึ่งไม่ห่างกันมาก เดินสะดวกค่ะ

ตรงนี้จะมีการปล่อยโคมกันละ เรานี่กรี๊ดมาก เพราะในที่สุดก็ได้เห็นของจริงสักที ถึงแม้ว่า ปีนี้เขาจะปล่อยกันน้อยกว่าทุกปีก็เถอะ แต่สำหรับเรา เท่านี้ก็ดีต่อใจมากแล้วจริงๆ

ระหว่างทางที่เดินไป แวะทาน ไข่ป๋ามกันสักนิดละกันเนอะ 5555 ก็มันหิวอ่า 

 

ระหว่างทางที่จะไปสะพาน ก็จะมีจุดให้ลอยกระทงอยู่จลอดข้างทางนะคะ ที่นี่ ลอยกระทงจะไม่ได้ลอยกันวันเดียวเหมือนตอนอยู่ กรุงเทพ แต่จะลอยกันได้ ถึง 5 วันเลยทีเดียว นับตั้งแต่ วันที่ 12-15 พย. ตลอดประเพณียี่เป็งเลยละ

และแล้วเราก็ถึงกลางสะพานนวรัฐ ได้เห็นโคมไฟแต่ละดวง เริ่มจุดกันเตรียมจะปล่อยสู้ฟ้ากว้าง

 

ตอนนั้น พอโคมของใครลอยได้ ก็จะมีเสียงเฮ้ ปรบมือดีใจกันใหญ่ 

เย้! ลอยไปแล้วจ้า 

ก็ถือว่าสมใจนะ แต่ปีหน้าถ้ามีโอกาส จะไปอีกรอบ ขนาดปีนี้ที่ว่าเงียบๆ ยังสวยขนาดนี้ ถ้าเป็นปกติจะเต็มฟ้าแค่ไหนยังไม่อยากจะคิด ปีนี้เลยถ่ายรูปเก็บกลับมาไม่สะใจเท่าไหร่ เพราะคนปล่อยกันน้อยลงค่ะ เส็ดจากสะพานนวรัฐ เราก็ขับกันไปที่ในคูเมืองกันเล็กน้อย จริงๆคือจะผ่านระหว่างกลับไปโรงแรม แล้วก็โชคดีมากๆ ได้ไปเก็บภาพมาที่ วัดพันเตา และก็ตรงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์มาอีกเล็กน้อย 

วันนั้นทุกๆบริเวณพื้นที่สำคัญจะมีการประดับไฟไว้อย่างสวยงาม อย่างวัดพันเตา

อันนี้ตรงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ค่ะ 

เรียกได้ว่า เป็นค่ำคื่นของความสงบและโรแมนติกผสมกันไป เป็นประสบการณ์ครั้งแรก และไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน ปีหน้าจะกลับไปเก็บภาพกันใหม่ค่า ขอบคุณสำหรับทุกๆการติดตามนะคะ

ติดตามเรื่องราวรีวิวอื่นๆอีกได้ที่ 

www.facebook.com/SeeYouSomeDayOfficial